18 ไอเดียแต่งบ้านด้วยงานศิลปะ

ผ่านมาครึ่งปีแล้ว สำหรับใครที่เบื่อบรรยากาศบ้านแบบเดิม ๆ อยากจะปรับเปลี่ยนมุมบ้านใหม่ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ลองปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บางอย่าง หรือ เติมสีสันให้กับห้อง แต่ถ้าหากว่าเราตกแต่งแบบไม่มีทิศทาง ก็อาจจะทำให้เกิดความเละเทะมากกว่าที่จะดูดี วันนี้เรามี 18 ไอเดียแต่งบ้านด้วยงานศิลปะ ที่ไม่ใช่เพียงแค่การตกแต่งธรรมดาทั่วไป แต่จะมีเทคนิคผสมผสานงานศิลปะต่าง ๆ ที่จะช่วยให้บ้านของคุณดูวิจิตร ตระการตา เหมือนได้นักออกแบบชื่อดังมาตกแต่งให้ มาฝากกัน ดังนี้ค่ะ

Art interior design with Thaniya

1. Mixed with Natural เพิ่มความรู้สึกเรียบง่าย ด้วยภาพวาดธรรมชาติ

ตกแต่งห้องด้วยการใช้สีเรียบง่ายอย่างโทนสีเอิร์ธโทน และเพิ่มต้นไม้ขนาดไม่ใหญ่มากอยู่มุมใดมุมนึงของห้อง ทำให้มองแล้วรู้สึกถึงธรรมชาติ พร้อมตกแต่งเพิ่มเติมด้วยของตกแต่งลวดลายธรรมชาติ อาจจะดูเป็นการตกแต่งที่เรียบง่ายแต่การเพิ่มลวดลายธรรมชาติที่วาดอย่างบรรจงสวยงามเข้าไปทำให้ห้องดูมีเสน่ห์ขึ้นมากเลยค่ะ

Art interior design with Thaniya

2. เรียบง่ายแต่โดดเด่น สไตล์ Midcentury modern

หากพูดถึงแนวศิลปะ อีกสไตล์ที่นิยมคือ Midcentury modern เราลองมาเปลี่ยนห้องใหม่ให้กลายเป็นสไตล์นี้ โดยเริ่มจากการใช้รูปทรงเรขาคณิต ลายเส้นในการตกแต่งอย่างมีมิติและเลือกใช้สีที่มาจากธรรมชาติอย่าง สีน้ำตาล จัดพื้นที่โดยเน้นการเชื่อมต่อระหว่างภายนอกกับภายใน มักใช้กระจกบานใหญ่เข้ามาแทนที่การใช้ผนังทึบ ใช้โครงเหล็กมาตกแต่ง ถึงจะเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความเท่ห์ทำให้หลายๆคนสนใจศิลปะสไตล์นี้อยู่บ่อยๆ

Art interior design with Thaniya

3. เลือกใช้ชุดสีในงานออกแบบ

การใช้โทนสีเป็นอีกเรื่องที่สำคัญสำหรับงานศิลปะ เพราะการเลือกใช้สี นอกจากสร้างความน่าสนใจ ยังส่งผลต่อความรู้สึกอีกด้วย การแต่งห้องก็เช่นกัน หากยังลังเลในการเลือกใช้สี ลองใช้กฎ 60-30-10 ดูค่ะ ยกตัวอย่างง่ายๆ การแต่งห้องนอนโดยเลือกใช้สีโทนเย็นที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เราอาจจะเลือกใช้สีฟ้าเป็นสีหลัก ทาที่ผนังและเพดาน ถัดมาเลือกใช้สีขาวเป็นสีรองในเฟอร์นิเจอร์หลัก10% ที่เหลืออาจจะใช้พื้นสีที่ทำให้ห้องดูอบอุ่นขึ้นอย่างสีน้ำตาล นอกจากนี้ยังเพิ่มน้ำหนักสีด้วยของตกแต่งสีน้ำเงินให้ห้องดูมีมิติมากขึ้น

Art interior design with Thaniya

4. เท่ห์ ๆ สไตล์ลอฟท์

ถ้าจะคิดถึงศิลปะเท่ห์ ๆ คงหนีไม่พ้นสไตล์ลอฟท์ การใช้ความดิบของวัสดุและการเน้นไปที่สีดำเทา เป็นอีกเสน่ห์ของลอฟท์ และหลาย ๆ ครั้งที่เราก็นิยมแต่งห้องด้วยสไตล์นี้ แต่หากคิดว่าโทนสีเข้มของผนังทำให้ดูหม่นหมองจนเกินไป จะเปลี่ยนโทนสีให้ห้องดูสว่างขึ้นก็ยุ่งยาก ลองปรับเล็ก ๆ ด้วยการเพิ่มของตกแต่งบ้านเข้าไป อย่างเช่น เพิ่มความสว่างด้วยโคมไฟที่ยังคุมธีมห้องอยู่หรืออยากให้ดูสดใสขึ้นมาลองหาแจกันดอกไม้ จัดดอกไม้แบบมินิมอล แค่นี้ก็ทำให้ห้องไม่ดูหม่นจนเกินไปแล้วค่ะ

5. ปาด ๆ ป้าย ๆ สไตล์งาน Abstract 

หากใครเป็นคนชอบดูภาพศิลปะหรือชอบงานศิลปะอยู่แล้ว ภาพวาด Abstract น่าจะเป็นแนวภาพอันดับต้น ๆ ที่เหล่าสายอาร์ตชอบเสพกันเลยก็ว่าได้ และการนำผลงานแนว Abstract ที่เราชื่นชอบมาตกแต่งในห้องของเรา แม้จะไม่ได้ปรับตกแต่งอะไรเพิ่มเติมมากมาย แค่เพียงภาพวาดสักชิ้น 2 ชิ้น ก็สามารถทำให้ห้องของเรามีกลิ่นอายความอาร์ตคลุ้งอยู่ทั่วห้องได้แล้วค่ะ

Art interior design with Thaniya

6. สีขาว-ดำ สุดคลาสสิก

สีขาว-ดำถูกยกให้เป็นสุดยอดสีคลาสสิก ซึ่งเป็นสีพื้นฐานของการสร้างสรรค์งานศิลปะ จะเห็นได้ว่าสีขาว-ดำเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของการตกแต่งอยู่เสมอ และการเลือกแต่งห้องโดยการใช้สีขาวหรือสีดำปนอยู่นั้นจึงเป็นอะไรที่เราคุ้นตา  แต่วันนี้เราจะมาคุมโทนห้องด้วยสีขาวกับสีดำเท่านั้น เพื่อเพิ่มความมินิมอล เริ่มจากการทาสีห้องด้วยสีดำ และเลือกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีขาว ประดับด้วยของตกแต่งชิ้นเล็กๆ เช่น ภาพวาดขาว-ดำ  หรือของตกแต่งสีขาวดำ ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปนานแค่ไหนการใช้สีนี้ถือว่าไม่มีเอ้าท์อย่างแน่นอน

Art interior design with Thaniya

7. สนุกสนานกับงานศิลปะ Pop art

เหล่าสายอาร์ตไม่น้อยมักชื่นชอบศิลปะสไตล์ modern pop art เพราะเป็นสไตล์ที่มีสีสันสดใสน่าดึงดูด การแต่งบ้านสไตล์ป็อบอาร์ต ให้มีกลิ่นอายแบบศิลปะโดยการเพิ่มงานเพ้นท์สีกราฟฟิตี้ ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนฝาผนังสีพื้นที่ดูธรรมดาให้มีสีสัน นอกจากการเพิ่มผลงานศิลปะแล้ว การตกแต่งในส่วนอื่นควรเน้นที่การใช้เฉดสีที่สดหลากหลายสีเน้นว่าต้องหลายสีเลยค่ะ แค่เลือกใช้สีให้เยอะ ห้องเราก็ดูเป็นห้องสไตล์ป็อบอาร์ตได้แล้วค่ะ

8. มีมุมจิตรกรส่วนตัว

ถ้าใครที่ชอบวาดภาพหรือทำงานศิลปะเป็นประจำอยู่แล้ว แน่นอนว่าต้องมีเครื่องมือหรืออุปกรณ์มากมายที่วางอยู่ในห้อง แทนที่จะวางทิ้งไม่เป็นระเบียบจนดูรก ลองนำมาจัดไว้ที่มุมใดมุมนึงของห้องดูค่ะ นอกจากจะทำให้ห้องดูเป็นระเบียบขึ้นมา ยังมีกลิ่นอายของศิลปะบ่งบอกตัวตนทำให้ห้องดูมีชีวิตชีวาขึ้นอีกด้วยค่ะ

9. ยกธรรมชาติมาไว้ในบ้าน

ไม่ว่าคุณจะอาศัยอยู่ใจกลางเมืองหลวงที่มีรถวิ่งอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าหากอยากลองสัมผัสธรรมชาติ ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ ลองหาวอลเปเปอร์ รูปภาพ หรือของตกแต่งบ้านลวดลายธรรมชาติมาตกแต่งบริเวณมุมบ้านดูก็ช่วยให้บรรยากาศเหมือนธรรมชาติได้นะคะ

10. สร้างศิลปะจากวัฒนธรรม

ลองตกแต่งห้องตามศิลปะทางวัฒนธรรม เช่น งานศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแอฟริกัน อาจจะเลือกทาผนังห้องด้วยสีโทนขาว น้ำตาล เหลือง และเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากับห้อง เช่น เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากธรรมชาติ อย่าง ตะกร้าไม้หวาย กรอบรูปไม้โอ๊ค

11. เรียบง่ายสไตล์มินิมอล

หากผนังห้องนั่งเล่นของคุณเป็นกำแพงกว้างขนาดใหญ่ ลองเลือกทาผนังห้องด้วยโทนสีขาวสบายตาเป็นหลัก  และเพิ่มความโดดเด่นด้วยการนำรูปภาพพิมพ์ขนาดใหญ่มาติดกลางผนัง ก็ให้ความเรียบง่าย แต่ดูมินิมอลไปอีกแบบนะคะ

12. สร้าง Space แกลลอรี่

ถ้าใครชอบไปเดินแกลลอรี่บ่อยๆ นอกจากการไปเดินชมงานศิลปะแล้ว Space ภายในแกลลอรี่ก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้หลายคนชอบมาเดินบ่อยๆ นั่นเพราะการจัดพื้นที่ที่ทำให้ดูกว้างโล่ง การใช้สีขาวที่ทำให้สบายตา และดีเทลมากมายอย่าง ประตูโค้ง การใช้ทางเดินวงกลม ก็ทำให้พื้นที่ภายในน่าเดินขึ้นมาก หากใครชอบความรู้สึกแบบนั้น เริ่มจากเปลี่ยนผนังให้เป็นสีขาวสะอาด นำของตกแต่งออกและติดงานศิลปะสวย ๆ เข้าไป เพิ่มเฟอร์นิเจอร์โทนสีเรียบง่ายแต่รูปทรงโค้งมนดูทันสมัย เท่านี้ก็เหมือนยกแกลลอรี่มาไว้ในบ้านแล้วค่ะ

13. ถึงเวลาโชว์งานสะสม

อีกหนึ่งวิธีจัดแสดงงานศิลปะให้กับบ้านของคุณ ที่ไม่ใช่เพียงแค่ภาพพิมพ์หรือภาพวาด แต่ถ้าหากห้องนั่งเล่นของคุณ มีตู้โชว์ของสะสมเก๋ ๆ ต่าง ๆ ดูแล้วก็คงจะเท่สุด ๆ เลยนะคะ

14. เฟอร์นิเจอร์โค้งมน 

เราไม่จำเป็นต้องเลือกเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งที่มีลักษณะแบบเดิม ๆ เสมอไป ลองเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีลวดลายที่แปลกใหม่ มาตกแต่งดูบ้างก็ได้ เช่น กระจกแขวนผนังรูปทรงโค้งมน  ก็สามารถเพิ่มเสน่ห์ให้บ้านของคุณได้เช่นกัน

     15.เฟอร์นิเจอร์เรขาคณิตนำเทรนด์

ตกแต่งมุมนั่งเล่นของบ้านด้วยโต๊ะและเก้าอี้รูปทรงเรขาคณิต อาจจะเลือกโต๊ะเป็นรูปทรงวงกลมและชุดเก้าอี้รูปทรงสี่เหลี่ยม พร้อมตกแต่งด้วยโคมไฟลวดลายเรขาคณิตเก๋ๆ สักชิ้น

Art interior design with Thaniya

16. สนุกกับความหลากหลาย สไตล์ Maximal Style

ศิลปะมีหลากหลายสไตล์ และหลายคนก็ชอบการใช้สีสันที่สดใสหรือลวดลายที่หลากหลาย อย่าง Maximal Style ซึ่งเป็นสไตล์ที่ฉีกกฎความมินิมอลน้อยแต่มากเรียบแต่โก้ทิ้งไปเลย เพราะแม็กซิมอลสไตล์เป็นการใช้สีสันที่สดใสฉูดฉาด การใช้หลายเลเยอร์หลายรูปทรง และการประโคมลวดลายเข้าไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตกแต่งสไตล์นี้ให้ดูไม่รก แต่หลักการมีอยู่ไม่มาก แค่เลือกใช้สีสันมากกว่า 3 สีและคุมให้อยู่ในเฉดเดียวกัน และเลือกใช้ลวดลายอย่างลายกราฟฟิกหรือลายปริ้นต์ (Animal Print) ช่วงเริ่มต้นอาจจะดูยากไปสักนิดแต่ว่าถ้าใครชอบแนวนี้รับรองต้องสนุกกับการจัดห้องอย่างแน่นอน

Art interior design with Thaniya

17. ลายเส้นสไตล์มินิมอล

หากใครที่มีใจรักความมินิมอล บอกได้เลยว่าการจะเลือกของเข้ามาตกแต่งเพิ่มเติมก็ต้องคิดแล้วคิดอีกกลัวจะทำให้ห้องของเราหายจากความมินิมอล แต่หากอยากจะลองเพิ่มของตกแต่งเข้ามาเราแนะนำให้เลือกของที่รูปทรงเรขาคณิตที่เรียบง่ายไม่มีส่วนเว้าโค้งเยอะจนเกินไป และถ้าอยากเพิ่มงานศิลปะลงไป ควรเป็นงานที่ไม่ใช้สีสันมากกว่า 2 สี หรือ เป็นภาพที่มีเพียงลายเส้นเรียบง่าย แค่เท่านี้ห้องมินิมอลของเราก็ดูอาร์ตขึ้นแล้วค่ะ

18. ยิ่งเก่ายิ่งมีเสน่ห์

มาถึงสไตล์ที่ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ดูมีเสน่ห์อย่างสไตล์วินเทจ เรียกได้ว่ายิ่งเก่ายิ่งดีเลยทีเดียว หากใครเป็นนักสะสมอยู่แล้ว การแต่งบ้านแนววินเทจถือว่าตอบโจทย์มากเลยค่ะ เริ่มจากใช้สีผนังห้องอ่อนๆอย่างสีครีม เลือกเฟอร์นิเจอร์ทรงวินเทจหรือใช้ลูกไม้เป็นผ้าม่าน และการนำของสะสมของเราออกมาตกแต่ง หรือจัดโชว์ไว้จะทำให้รู้สึกถึงความเป็นตัวเอง เป็นพื้นที่ของเราได้มากเลยค่ะ 

.

สำหรับใครที่ต้องการออกแบบหรือตกแต่งบ้านใหม่ แต่ยังไม่มีไอเดีย ลองเลือกจาก 18 ไอเดียแต่งบ้านด้วยงานศิลปะข้างต้นดูนะคะ

.

ใครที่สนใจสินค้าของเราสามารถทักมาสอบถามเพิ่มเติมได้เลยนะคะ ที่ @thaniya1988 ได้เลยค่ะ

#thaniya1988