A Story of 5 Scents: เรื่องราวของ 5 ดอกไม้หอม
ดอกไม้หอมและพืชนานาพันธุ์บนโลกนั้นมีมากมายหลากหลายสายพันธุ์จนนับไม่ถ้วน และกลิ่นอันน่าอัศจรรย์ของมันก็มีมากมายตามจำนวนสายพันธุ์เช่นกัน หลายครั้งหลายคราวที่เรานึกสงสัยว่ากลิ่นหอมของดอกไม้ที่ปลายจมูกของเรานั้นเป็นกลิ่นของดอกอะไร มันคงจะดีหากเราสามารถเลือกกลิ่นอันหอมหวนนั้นมาอยู่ในบ้านของเราได้ ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องรับแขก
วันนี้เราได้ยก 5 กลิ่นที่เราคิดว่าเป็นที่สุดของบรรดากลิ่นทั้งหลายมาไว้ เพื่อเข้าใจถึงกลิ่นอันหอมหวานของดอกไม้ ความรู้สึกที่สิ่งอื่นไม่สามารถทดแทนได้ และความเป็นมาของดอกไม้และพืชพรรณต่างชนิด รวมถึงความหมายอันลึกซึ้งของแต่ละอย่างด้วย
1.Lakley (ดอกรักเร่)
Lakley เป็นกลิ่นที่เราเบลนด์ขึ้นมาเป็นพิเศษจากดอกไม้หอมหลากหลายชนิด ที่ให้กลิ่นหอมหวาน นุ่มลึก ราวกับเดินอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่น่าค้นหา ไปพร้อม ๆ กับกลิ่นที่เย้ายวน น่าหลงใหล และแฝงความลึกลับของพืชพรรณและดอกไม้มากมายเอาไว้
ซึ่งกลิ่นนี้ของเราได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะว่าเป็นกลิ่นที่แปลกใหม่และมีความเป็นเอกลักษณ์กว่ากลิ่นอื่น ๆ ที่พร้อมจะพาคนที่สูดดมกลิ่นหอมนั้นดำดิ่งไปสู่ความหมายของธรรมชาติที่แท้จริง
เลือกชมกลิ่นได้ที่ กลิ่นหอมของเรา
2.Liela (ดอกไลลา)
อีกหนึ่งกลิ่น Signature ของเรา โดยดอกไม้หอมที่ทางเราทำการเบลนด์ขึ้นมา เป็นดอกไม้ไทยสุดพิเศษ และดอกไม้นำเข้าหลากหลายชนิด ที่ให้กลิ่นหอมเย็น ละมุน ที่เมื่อใครได้กลิ่นก็จะนึกถึงการกระโจนไปในทุ่งดอกไม้ทันที ราวกับว่าโลกนี้มีเพียงแค่ตัวเราและดอกไม้นานาพันธุ์ที่โอบกอดเราด้วยกลิ่นหอมอันน่าอัศจรรย์
ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ไม่แพ้กับกลิ่น Lakley เลย เพราะด้วยความที่มีการผสมผสานดอกไม้ไทยกับดอกไม้นำเข้ามากมาย ทำให้กลิ่นนี้มีความละมุนและลงตัว ที่พร้อมจะพาเราเข้าไปเดินเล่นในสวนดอกไม้ กับแดดอ่อน ๆ ยามเช้า
เลือกชมกลิ่นได้ที่ กลิ่นหอมของเรา
3.Jasmine (ดอกมะลิ)
หากนึกถึงกลิ่นหอมละมุนของดอกไม้สักชนิด เราคงจะจินตนาการถึงกลิ่นดอกมะลิเป็นอันดับแรก ๆ อย่างแน่นอน แล้ววันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับดอกไม้หอมชนิดนี้กันให้มากขึ้นกัน โดยคนไทยนั้นถือว่าดอกมะลิเป็นดอกไม้มงคล และยกให้เป็นดอกไม้ประจำวันแม่ เพราะว่าดอกมะลิเป็นดอกไม้สีขาว ซึ่งหมายถึงความรักอันบริสุทธิ์ และดอกมะลิยังสามารถออกดอกได้ทั้งปี ทำให้สื่อความหมายถึงความรักที่แม่มีให้ลูกอย่างไม่เสื่อมคลาย
โดยดอกมะลินั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเทือกเขาหิมาลัย ที่ถือว่าเป็นที่ประทับของพระนารายณ์ตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และในประวัติศาสตร์ของไทยนั้น มีการสันนิษฐานว่าดอกมะลิน่าจะเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัย ในช่วงที่อินเดียเข้ามาเพื่อเผยแผ่ศาสนา และด้วยที่กลิ่นหอม และสีของดอกที่ขาวบริสุทธิ์ ทำให้ดอกมะลินิยมมาใช้ในการทำพวงมาลัยบูชานับตั้งแต่นั้น
ซึ่งดอกมะลินั้นมีมากมายหลายสายพันธุ์ ซึ่งจะมีหมวดหลัก ๆ อยู่ 2 หมวด ได้แก่ มะลิที่เป็นพันธุ์พื้นเมือง เช่น มะลิไส้ไก่ มะลุลี และมะลิพันธุ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น มะลิซ้อน มะลิลา มะลิหลวง มะลิฉัตรพิกุล มะลิพุทธชาด
โดยดอกมะลินั้นนิยมนำมาร้อยเป็นพวงมาลัย เพื่อทำการสักการะบูชาพระ เนื่องจากมีกลิ่นที่หอมและสีขาวสวย และยังนิยมนำดอกมาลอยในน้ำเปล่าอีกด้วย นั่นเพราะว่าดอกมะลิเมื่อนำมาล้างฝุ่นหรือสิ่งสกปรกออกแล้วนำมาลอยในน้ำเปล่า จะทำให้ได้กลิ่นที่หอมเวลาดื่มน้ำ ที่จะช่วยในเรื่องของการดับกระหาย คลายร้อน และให้ความสดชื่น
และดอกมะลิซ้อนยังเป็นที่นิยมอย่างมากในการสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย เนื่องจากกลิ่นน้ำมันหอมระเหยของดอกมะลินั้นจะมีความหวาน และมีกลิ่นที่หอมตลบอบอวล จนกลิ่นของดอกมะลินั้นขึ้นชื่อว่าเป็นกลิ่นของดอกไม้ที่ทรงคุณค่า และมีความหรูหราอย่างมากในวงการน้ำหอม ที่แบรนด์หรูหลาย ๆ แบรนด์เลือกใช้
เลือกชมกลิ่นได้ที่ กลิ่นหอมของเรา
4.Ginger x Lemongrass (ขิง และ ตะไคร้)
การผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่าง ขิง และ ตะไคร้ สมุนไพรไทยที่คุ้นเคยและมีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ยิ่งในยุคปัจจุบัน ผู้คนยิ่งเริ่มให้ความสนใจสมุนไพรทั้งสองชนิดนี้มากขึ้น ด้วยความที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสรรพคุณการต้านโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ซึ่งเรียกได้ว่านี่คือสมุนไพรที่มีติดบ้านอันดับต้น ๆ ของทุกคนเลย
ในประเทศจีน ขิงขึ้นชื่อเรื่องของสรรพคุณมาก ถึงขนาดที่ว่า ขงขื๊อ นักปราชญ์ผู้โด่งดังเคยกล่าวไว้ว่า “อาหารทุกมื้อไม่ควรละเลยขิง” ซึ่งท่านมีความเชื่อว่า ในบรรดาพืชผักและสมุนไพรต่าง ๆ ล้วนมีประโยชน์ทั้งสิ้น แต่ขิงนั้นถือว่ามีคุณค่ามากที่สุด และขิงยังเป็นหนึ่งในผักสวนครัวที่หลาย ๆ บ้านมีติดไว้เลย
และประโยชน์ของขิงนั้นก็มีมากมายอย่างที่ท่านกล่าวเอาไว้ ตั้งแต่บรรเทาอาการคลื่นไส้ บรรเทาอาการท้องอืด ช่วยย่อยอาหาร ลดอาการอักเสบ บรรเทาอาการแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก บำรุงสายตา กระตุ้นการทำงานของสมอง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดบุตร ไปจนถึงลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง เพราะว่าขิงนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูง ซึ่งเป็นคุณสมบัติของการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งนั่นเอง
ตะไคร้ก็เป็นสมุนไพรสำคัญและมักจะมีติดสวนครัวเช่นกัน ซึ่งตะไคร้นั้นเป็นพืชเขตร้อน มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา เอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย และจะมีชีวิตรอดได้ยากหากถูกปลูกในประเทศที่อยู่ในเขตหนาว นับทำให้มูลค่าของตะไคร้นั้นสูงมาก ๆ ในประเทศแถบยุโรปและอเมริกา โดยส่วนมากแล้วจะมีการส่งออกทั้งในรูปแบบของต้นสดและสารสกัลจากน้ำมันหอมระเหย
ซึ่งสรรพคุณของตะไคร้ก็มีมากมายไม่แพ้ขิงเลย ซึ่งสรรพคุณของตะไคร้มีตั้งแต่ บรรเมาอาการปวดท้อง แก้ท้องเสีย แก้ท้องอืด จุกเสียด ลดความดัน ช่วยให้เจริญอาหาร ดับกลิ่นปาก และดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์
และกลิ่นของตะไคร้เองก็ให้กลิ่นหอม ทำให้ตะไคร้ถูกนำมาใช้ควบคู่กับอาหารหลายต่อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการหั่นเป็นแว่นเล็ก ๆ แล้วนำมาผัดคู่กับเนื้อสัตว์ หั่นเป็นท่อน ๆ เพื่อนำมาทำต้มยำต่าง ๆ และนำมาโขลกแล้วนำไปต้มเพื่อทำเป็นน้ำตะไคร้
นั่นทำให้การผสมผสานระหว่าง ขิง และ ตะไคร้ เป็นที่นิยมในหลากหลายรูปแบบ และเครื่องหอมก็เป็นอีกวิธีที่นิยมมาก ๆ ในการดึงกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของสุดยอดสมุนไพรสองอย่าง ที่ช่วยกระตุ้นระบบการทำงานของร่างกาย และช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น มีพลังในการทำงานทุก ๆ วัน
เลือกชมกลิ่นได้ที่ กลิ่นหอมของเรา
5.Thai Floral (ดอกไม้ไทย ดอกบัว ดอกปีบ และ กล้วยไม้)
กลิ่นของดอกไม้หอมไทยก็ไม่แพ้ที่อื่นเช่นกัน ที่มีทั้งความหอมอันโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ และความสวยงามที่ไม่แพ้ใคร เริ่มจากดอกบัวที่ถูกจัดให้อยู่จุดสูงสุดของดอกไม้น้ำ และได้รับสมญานามว่า “ราชินีแห่งดอกไม้น้ำ” ที่มีความหอมหวานอ่อน ๆ ที่เมื่อดมแล้วจะรู้สึกสดชื่น ทำให้จิตใจสงบ และรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งดอกบัวนั้นยังเกี่ยวโยงกับความเชื่อและศาสนามากมาย โดยความเชื่อของอียิปต์โบราณนั้น ดอกบัวหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ การเกิดใหม่ และความเป็นนิรันดร์ และยังมีความเชื่ออีกว่า หากนำดอกบัวไปวางไว้บนอกของมัมมี่ จะทำให้คน ๆ นั้นกลับมามีชีวิตในโลกหน้าอีกครั้งหนึ่งได้
ส่วนความเชื่อของไทยนั้นจะเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาโดยตรง ตั้งแต่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน และพระองค์ยังมองเห็นว่าผู้คนบนโลกนั้นมีมากมาย บางคนสอนได้ บางคนสอนไม่ได้ ที่เปรียบเสมือน “บัวสี่เหล่า” และดอกบัวที่บานเต็มที่เหนือน้ำ ยังมีความหมายว่าเป็นผู้ที่หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงอีกด้วย
ถัดมาก็คือดอกปีบ ซึ่งดอกปีบนั้นเป็นดอกไม้สีขาวที่มีกลิ่นหอมอบอวล ที่ให้ความสดชื่น ผ่อนคลาย และดอกปีบยังเป็นสัญลักษณ์ของพยาบาลไทยอีกด้วย เนื่องจากดอกปีบเป็นดอกไม้สีขาวหอม ที่เปรียบเสมือนชุดสีขาวของพยาบาลและจะคอยช่วยเหลือผู้คนอยู่เสมอ ซึ่งนอกจากกลิ่นหอมแล้ว ดอกปีบยังมีประโยชน์ในด้านการแพทย์อีกด้วย ซึ่งสรรพคุณของดอกปีบมีตั้งแต่ ช่วยบำรุงโลหิต บำรุงปอด รักษาวัณโรค และรักษาอาการหอบหืด
และดอกไม้ไทยอย่างสุดท้ายก็คือกล้วยไม้ จะเรียกได้ว่านี่คือพืชที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากที่สุดในโลกเลยก็ได้ เพราะมีการค้นพบฟอสซิลของต้นกล้วยไม้ที่มีอายุราว 80 ล้านปี และจากการค้นคว้าก็ยิ่งทำให้รู้ว่ากล้วยไม้นั้นน่าจะมีมาตั้งแต่ 200 ล้านปีที่แล้วเลยทีเดียว ซึ่งกล้วยไม้นั้นสามารถพบได้เกือบทุกทวีปของโลก ตั้งแต่ทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกา
กล้วยไม้นั้นยังเป็นสัญลักษณ์ของความสง่างาม ความอุดมสมบูรณ์ และความประเสริฐอีกด้วย ซึ่งกลิ่นของกล้วยไม้นั่นมีความหอมหวานเบาบาง ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย คลายความเครียด และบรรเทาอาการปวดหัว
เลือกชมกลิ่นได้ที่ กลิ่นหอมของเรา
THANIYA ได้ทำการรวบรวมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของดอกไม้อันหอมหวนนานาพันธุ์มากกว่า 20 กลิ่นออกมาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องหอมอันปราณีตจากนักปรุงกลิ่นมากประสบการณ์ ผสมผสานกับช่างเซรามิกยอดฝีมือในรูปแบบต่าง ๆ เกิดเป็นเครื่องหอมอันทรงคุณค่า
สามารถเข้ามาชมสินค้าของเรา พร้อมสัมผัสกับความหอมของเราได้ที่
– ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 ชั้น 3
– สยามพารากอน ชั้น 2
หรือ สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ LINE @thaniya1988 แล้วพบกันนะคะ
และติดตามข่าวสารของเราได้ที่ THANIYA
นอกจากนี้ เรายังรับทำของขวัญ customized ของพรีเมี่ยม สนใจทักไลน์มาได้เลยค่ะ
#Thaniya1988
#เทียนหอม #เทียนข้าวหอมมะลิ #Thaniya1988 #อยู่บ้านกับความหอม #ของขวัญ #ของพรีเมี่ยม #บ้านและสวน #งานวาด #interior #designer #ของสะสม #เซรามิก #ของขวัญพรีเมี่ยม #ลายคราม #ตกแต่งโรงแรม #ไอเดียตกแต่ง #potterylovers #interiordecorating #decor #candles #interiordesign #craftmanship #งานกระเบื้องเคลือบ