8 เรื่องราวของ Karl Lagerfeld ที่ได้ก้าวเข้าไปสู่ดีไซน์เนอร์ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก

ดีไซเนอร์วันนี้เราจะพาไปรู้จัก Karl Lagerfeld ที่ได้ก้าวเข้าไปสู่ดีไซน์เนอร์ระดับโลก

เอกลักษณ์ที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร ในชุดสูทสีดำ แว่นกันแดดสีดำ และผมหางม้าสุดเฟี้ยว เอกลักษณ์นี้จะเป็นใครไปไม่ได้ชื่อนี้ก็คือ Karl Lagerfeld ดีไซเนอร์ระดับตำนานของวงการแฟชั่น ชื่อก้องโลกที่โลกต้องจดจำ ผลงานการออกแบบที่โดดเด่น โลดแล่นไปทั่วโลก และการก้าวเข้าสู่ดีไซเนอร์ระดับตำนานของ Karl Lagerfeld

1. การก้าวเข้าไปสู่ระดับตำนาน ของ Karl Lagerfeld

ก่อนที่ Karl Lagerfeld จะมาเป็นดีไซเนอร์อัจฉริยะคนสำคัญของโลกแฟชั่น เขาเกิดในครอบครัวนักธุรกิจชาวเยอรมัน เขาจบการศึกษาด้าน Drawing และประวัติศาสตร์ ก่อนจะเริ่มต้นการทำงานโดยเป็นผู้ช่วยของ Pierre Balmain ตั้งแต่ปี 1955 หลังจากประกวดออกแบบเสื้อผ้าชนะ ต่อมาก็ ทำงานเป็นฟรีแลนซ์ช่วงเวลาสั้นๆ กับ Chloé ก่อนจะร่วมงานกับ Chanel ตั้งแต่ปี 1983 ซึ่งแบรนด์นี้นี่เองที่ปลุกปั้นตำนานให้โด่งดัง

2. ทำในสิ่งแปลกใหม่

ไม่เพียงแต่งานดีไซน์ แต่ดพียงอย่างเดียว Karl Lagerfeld เข้าร่วมงานกับแบรนด์ Chloé ในฐานะดีไซเนอร์อิสระ Karl Lagerfeld ก็สร้างประวัติศาสตร์เป็นแฟชั่นดีไซเนอร์คนแรกที่ผลิตน้ำหอมออกมาให้กับ Chloé ในปี 1975 แม้ปัจจุบันกลิ่นนี้จะไม่มีวางจำหน่ายแล้ว แต่ก็เรียกได้ว่าน้ำหอมขวดนี้เป็นต้นแบบให้กับน้ำหอมใหม่ๆ หลายกลิ่นยอดฮิตของแบรนด์ต่อๆ มา

3. การทำงานอย่างหนัก

ช่วงเริ่มต้นการทำงานของเขาเองในช่วงปี 1960 นั้นร่วมงานกับแบรนด์อย่าง Fendi และ Chloé ก่อนที่จะมาร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นที่ได้สร้างชื่อเสียงกับเขาเองอย่าง Chanel ที่ซึ่งเขาได้สร้างสรรค์ผลงานมาเป็นระยะเวลากว่า 35 ปี ตัวเขาเคยกล่าวว่าช่วงแรกๆ ในการทำงานของเขาที่แบรนด์หรูอย่าง Chanel นั้น

เขาทำงานถึงวันละ 16 ชั่วโมง และมีความยินดีที่จะทำด้วย สำหรับคอลเลคชั่นของเขามีดาราและผู้มีชื่อเสียงได้สวมใส่เสื้อผ้าที่เขาได้ออกแบบเช่น Keira Knightley นอกจากนี้ยังมีดาราและนักแสดงที่ไปเป็นนายแบบ และนางแบบรับเชิญสำหรับผลงานออกแบบของเขาไม่ว่าจะเป็น Cate Blanchett และ Nicole Kidman ฯลฯ รวมไปถึงนักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังอย่าง Pharrell Williams

4. แรงบันดาลในหลายสิ่ง

Karl Lagerfeld ไม่ใช่แค่นักออกแบบหรือเป็นดีไซน์เนอร์เท่านั้น เขายังเคยเขียนหนังสืออีกด้วย

Karl Lagerfeld ไม่ใช่แค่ออกแบบหรือเป็นดีไซน์เนอร์เท่านั้น เขายังเคยเขียนหนังสืออีกด้วยโดย ในปี 2000 หลังจากที่เขาได้ทำการลดน้ำหนักได้สำเร็จแล้ว เขาก็ได้แชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนักของตัวเอง โดยตีพิมพ์ลงใน The 3D Diet ซึ่งถูกจัดจำหน่ายไปทั่วโลก และทำให้ยอดขายพุ่งสูงได้มากกว่า 200,000 เล่ม

5. “Chanel” กลับมาอีกครั้ง

Karl Lagerfeld ได้เข้ามาควบคุมแบรนด์สื้อผ้าสุดหรูอย่าง Chanel เป็นคนที่ทำให้แบรนด์ Chanel กลับมาทรงอำนาจอีกครั้ง

 เพราะหลังจากที่ Gabrielle Chanel จากไป ยอดขายเสื้อผ้าก็ตกลง ด้วยผู้หญิงสมัยนั้นมองว่าเสื้อผ้าจากแบรนด์ Chanel ดูสูงเกินกว่าจะเอามาใส่ในชีวิตประจำวันได้ Karl Lagerfeld จึงได้ออกแบบให้แต่ละชุดสวมใส่ง่ายมากขึ้น และก็ได้ปลุก Chanel กลับขึ้นมาอีกครั้ง

6. การจับมือกับแบรนด์ต่างๆ

Karl Lagerfeld ได้ขึ้นชื่อว่า King of Collaborations ที่ไม่ว่าจะจับมือกับแบรนด์ไหนก็ล้วนสร้างเสียงฮือฮา

และได้ขายหมดเพียงชั่วพริบตา ที่แบบว่าไม่ได้ครอบครองกันง่ายๆ โดยได้มีการจับมือกับแบรนด์แฟชั่นระดับท็อปของประเทศไทยอย่าง Jaspal ,Vans, Tokidoki, Shu Uemura, H&M, Diet Coke,Fossil, Louis Vuitton

7. Karl Lagerfeld และ H&M

แฟนๆ H&M รู้กันไหมว่า คอลเล็กชั่นพิเศษที่คอลแลบกับแบรนด์ดีไซเนอร์ระดับโลกทุกปีที่ทุกคนตั้งตารอคอยนั้น มีจุดเริ่มต้นมาจาก “Karl Lagerfeld”

ที่สร้างปรากฏการณ์เป็นแบรนด์แรกของโลกที่จับมือกับ H&M ในปี 2004 ซึ่งแน่นอนว่ามีการจำหน่ายหมดไปตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่าย เมื่อ Karl Lagerfeld สุดยอดดีไซเนอร์ระดับตำนาน ชายเยอรมัน เสียชีวิตด้วยอายุ 85 ปี ผลงานของเขาจะเป็นที่จดจำ และจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่รักและหลงไหลในแฟชั่นตลอดไป

8. ผู้อยู่เบื้องหลังสุดยอดรันเวย์โชว์ของ Chanel

ในโชว์ของ Chanel ทุกๆ ปี Karl Lagerfeld จะรับตำแหน่ง Artistic Director ตั้งแต่ปี 1983 จะสร้างโชว์ 6 ครั้งต่อปี

ทุ่มทุนจัดฉากตระการตาที่มาพร้อมราคาหลายร้อยล้านบาท ให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าว้าวไปกับคอลเล็กชั่น Chanel ที่ถูกหยิบออกมานำเสนอ และนั่นทำให้แบรนด์ถูกจารึกบนหน้าประวัติศาสตร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

สรุป เป็นยังไงกันบ้างกับเส้นทางดีไซเนอร์ระดับโลก ไม่ง่ายเลยใช่ไหมคะ ต้องมีความอดทนและฝึกฝนกันอย่างยาวนานกันเลยที่เดียว ทางเราก็ขอเป็นกำลังใจให้ ดีไซเนอร์ทุกท่าน ก้าวไปตามความฝันทุกคน