1. ผลงานออกแบบ IDEO Q
โดย คุณปอย – ไพทยา บัญชากิติคุณ Managing Director & Partner จาก ATOM Design บริษัท ออกแบบชั้นนำที่เรียกได้ว่าเป็น Specialist ด้านการออกแบบคอนโดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
ที่มา : locanation.com
การออกแบบคอนโดตอนนี้ หลักๆ จะเน้นให้ความสำคัญเรื่องอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ ต้องตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อมตามความเหมาะสม และเรื่องคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัย เพราะเรื่อง สุขภาพเป็นประเด็นที่คนให้ความสำคัญมากขึ้น WELL Certification เป็นมาตรฐานเรื่องสุขภาพผู้ อยู่อาศัยที่เป็นที่ยอมรับในนานาประเทศ ใส่ใจเรื่องคุณภาพอากาศและคุณภาพของตัวอาคารเพื่อผู้ อยู่อาศัย การเลือกใช้วัสดุที่เป็น Non-VOC Material หรือวัสดุที่ไม่คายสารเคมีต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่คน เริ่มระวังมากขึ้น
ที่มา : thailandflat.com
ที่มา : madisontwp.org
ทั้งนี้ เวลาออกแบบที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะบ้านหรือคอนโด เรื่อง “พื้นที่สีเขียว” เป็นสิ่งที่เราให้ ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ที่เราพยายามจะใส่ลงไปก็เพื่อให้คนได้สัมผัสธรรมชาติให้มากที่สุด เพราะเรามองว่าเป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มด้านสุขภาพจิตใจและคุณภาพชีวิตที่ดี ได้อย่างดีมาก
ที่มา : thumbsup.in.th
เทียนในเซรามิกของ Thaniya ตัวเทียนทำมาจากถั่วเหลืองและข้าวหอมมะลิจากธรรมชาติผสมผสานกลิ่น หอมจากดอกไม้และสมุนไพรธรรมชาติ
ผลิตภัณฑ์ของ Thaniya จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งยังสร้างบรรยากาศดีๆและกลิ่นหอมให้กับที่อยู่อาศัย ของคุณอีกด้วย
2. ผลงานออกแบบ The Urban Reserve
โดย PODesign ก่อตั้งโดย คุณบรรจง เกียรติสิงห์นคร และ คุณศันสนีย์ ประดิษฐ์กุล ซึ่งมี ประสบการณ์ทำงานออกแบบในต่างประเทศมาเกือบ 20 ปี ในงานออกแบบ เราจะใช้มุมมองหรือ คอนเซ็ปต์จากทั้งตะวันตกและตะวันออกมาผสานกัน เพื่อให้ได้งานที่น่าสนใจ
ที่มา : lifeandhomemag.com
ประเด็นหลักของการ “ออกแบบบ้าน” คือ “ไม่ใช่แค่การออกแบบตัวอาคาร” แต่เราต้อง ออกแบบ Space เพื่อสร้าง “ความสัมพันธ์ที่ดี” พื้นที่ไหนที่เขามาใช้ร่วมกัน เราก็ต้องเน้นที่จุดนั้น เพราะมันคือ “หัวใจของบ้าน” เพราะสิ่งสำคัญของที่อยู่อาศัยคือเรื่องความสัมพันธ์
ที่มา : home.co.th
ที่มา : visualpano360.com
จึงพยายามออกแบบพื้นที่เพื่อให้สมาชิกในบ้านได้มาใช้ชีวิตด้วยกัน เช่น อาจจะทำเป็นห้องพักผ่อน อยู่หน้าห้องนอนใหญ่ ที่เด็กๆ อาจจะมาเล่นดนตรี วาดรูป หรือคุณพ่อคุณแม่มาอ่านนิทานหรือมา นั่งคุยกับคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย เพื่อให้ตรงนี้เป็น “พื้นที่ของความทรงจำ” เป็น Quality Time ของครอบครัว เมื่อเด็กๆ โตขึ้น เขาจะจำพื้นที่ตรงนี้ความรู้สึกตรงนี้ ที่เขาได้คลุกคลีกับสมาชิกใน ครอบครัว
ที่มา : ddproperty.com
3. ผลงานออกแบบ Saladaeng One
ที่มา : estopolis.com
โดย คุณปลาย – วรรณภัทร เจนพานิชการ Associate Interior Designer จาก Openbox Architects อีก หนึ่งสตูดิโอออกแบบของไทยที่ประสบความสำเร็จในเวทีโลก ด้วยการคว้ารางวัล German Design Awards (รางวัลด้านการออกแบบซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ) เมื่อปี 2018
ที่มา : th.hellomagazine.com
ที่มา : luxurycondo.scasset.com
การออกแบบควรจัดให้เห็น “ทางเดิน” ชัดๆ เพราะทางเดินที่มันตัดกันไปมา จะทำให้ห้องนั่งเล่นดู วุ่นวายและไม่น่านั่งพักผ่อน อีกประเด็น คือ ห้องนั่ง เล่นเป็นพื้นที่ที่มีคนมาอยู่รวมกันเยอะ ซึ่งก็จะมี ความชอบหรือความต้องการที่แตกต่างกันไป วิธีแก้ปัญหาให้แต่งห้องนั่งเล่นได้ถูกใจทุกคน ก่อน อื่นเลยคือทำให้มีที่เก็บของเยอะๆ ให้ห้องดูไม่รก มีเก้าอี้หรือโซฟาตัวใหญ่สักตัวนึง จากนั้นใส่ชิ้น เล็ก เช่น อาร์มแชร์ที่มีดีไซน์ต่างกันแต่โทนสีเข้ากันเพิ่มเติมเข้าไป เผื่อคนนี้ชอบนั่ง สบาย คนนั้น ชอบนั่งแบบมีที่วางเท้า
ที่มา : livinginsider.com
4. ผลงานออกแบบ Sala Khaoyai
โดย คุณสราวุฒิ ปาทาน อินทีเรียร์ดีไซน์เนอร์ จาก Onion เป็นการออกแบบที่แบ่ง การกั้น หรือมี Line ของการจัดวางฟังก์ชั้น ต่างๆ ให้อยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสม มีระบบสัญจร มีช่องว่างให้พื้นที่มัน หายใจได้ เพื่อส่งผ่านความรู้สึกบาง ซึ่งก็คือ “ความอยู่สบาย” ไปยังผู้ที่เข้ามาใช้พื้นที่
ที่มา : salahospitality.com
ที่มา : world.kapook.com
ซึ่งอยู่ในทำเลที่สวยมาก อยู่บนยอดเขา แต่เราก็ไม่ได้ออกแบบตัวอาคารให้โผล่โดดเด่นขึ้นมาอยู่บน ภูเขา กลับกันคือทุกวิลล่าถูกดีไซน์ให้จมลงและดูกลืนไปกับภูเขา ตัวสถาปัตยกรรมถูกรายล้อมไป ด้วยธรรมชาติ ให้ผู้เข้าพักได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศและวิวเต็มที่
ที่มา : eatprayflying.com
5. ผลงานออกแบบ KALM Penthouse
ที่มา : wisont.wordpress.com
โดย คุณรุ้ง – รุ้งนภา โดร์มิเออ ผู้ร่วมก่อตั้ง PAON Architects การออกแบบ KALM Penthouse ที่ คำนึงถึงการรับแสงธรรมชาติและพื้นที่สีเขียวกับระเบียงที่จัดวางแบบ Cross-stacked ทาํ ให้โปร่ง และสามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ได้ นอกจากนี้ “แสงไฟ” ก็เป็นอีกสิ่งที่เราให้ความสำคัญ เพราะเป็น สิ่งที่จะช่วยทำให้พื้นที่ดูมีความน่าสนใจมากขึ้นได้
ที่มา : infinitydesign.in.th
ที่มา : hipflat.co.th
และเพิ่มความ Luxury ให้กับผู้อยู่อาศัย โดยเน้นเรื่องการสร้างลูกเล่นให้วัสดุ เช่น บัวอะลูมิเนียมซึ่ง เป็นบัวพื้น เราก็ลองเอามาทำเป็น Feature Wall หรืออย่างสแตนเลสก็นำมาพับเป็นรูปทรงสามมิติ
ที่มา : home.co.th
6. ผลงานออกแบบ White Box House
ที่มา : plataformaarquitectura.cl
โดย คุณอาร์ท – อยุทธ์ มหาโสม ผู้ก่อตั้ง Ayutt and Associates design (AAd) โดย White Box เป็น บ้านที่มีฟังก์ชั่นคล้ายกับบ้านโดยทั่ว ไป แต่เป็นบ้านที่มีการถ่ายเทอากาศ มีพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับ การอยู่อาศัยเป็นครอบครัวและสามารถต่อเติมในอนาคตได้ โดยต้องมีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับเจ้าของ บ้านและคุณพ่อ คุณแม่ แต่ในขณะเดียวกันก็มีพื้นที่ส่วนกลางเพื่อเพิ่มเติมความผูกพันธ์ใกล้ชิดกับ ครอบครัว
ที่มา : archdaily.com
ที่มา : behance.net
พื้นที่คอร์ยาร์ดกลางบ้านจะมีต้นจิกนำตั้งอยู่ โดยสถาปนิกตั้งใจให้ต้นไม้ต้นนี้ช่วยเพิ่มความร่มรื่น สร้างมิติแสงและเงาที่ตกกระทบลงบนอาคาร และยังช่วยให้ผู้พักอาศัยเกิดความผ่อนคลาย และสงบ เพราะธรรมชาติคือส่วนสำคัญในการเติมเต็มบรรยากาศภายในบ้านให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ที่มา : hypebeast.com
เพิ่มสไตส์การตกแต่งบ้านด้วย item งานหัตถศิลป์ฝีมือสุดประณีตของช่างศิลป์ไทยในสไตส์ของ Thaniya ไปด้วย ก็จะสร้างความมีชีวิตชีวา และทำให้บริเวณโดยรอบสวยงามได้เช่นกัน
7. ผลงานออกแบบ IDEO Morph38
ที่มา : hubbrealestate.com
โดย คุณเกด – เจษฎ์สุภา พิพัฒนสุภรณ์ Interior Design Director จากบริษัท Somdoon Architects หรือ สถาปนิก สมดุล เล่าว่า ต้องทำให้เกิดความสมดุลระหว่าง Interior กับ Exterior เช่น เวลาเรา มองออกไป เราอยากได้ช่องเปิด อยากเห็นสวน หรืออยากได้มุมมองอย่างนั้นอย่างนี้
ที่มา : staff.theagent.co.th
ที่มา : baan.kaidee.com
ต้องทำให้เกิด “ความเชื่อมต่อ” เพราะมันจะช่วยสร้างความรู้สึกโปร่งสบาย คือตอนนี้ราคาที่อยู่ อาศัยสูงขึ้น ความจำกัดก็มีมากขึ้น เวลาเรากลับบ้านเราก็คงไม่อยากไปเจออะไรที่ทึบๆ ดูแล้วอึดอัด เราก็ต้องคิดว่าจะทำยังไงให้ผู้อยู่อาศัยเขารู้สึกสบายได้แม้จะในพื้นที่ที่เล็กลง ต้องคำนึงถึงการ จัดสรรพื้นที่ห้องเก็บของให้เพียงพอต่อการใช้งาน เวลาเกดออกแบบบ้านหรือคอนโด
ที่มา : ddproperty.com
8. ผลงานออกแบบ Baby Bar Bangkok
ที่มา : bkkmenu.com
โดย คุณแมค – อศิ เชิควิวัฒนสินธ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Studio Freehand การออกแบบของ Baby Bar Bangkok ออกแบบร้านอาหารให้ดูเป็นกันเอง ไม่ต้องทางการมาก การทำเพื่อรองรับคนเจเนอเรชั่น นี้ ร้านอาหารก็ไม่ใช่เพื่อให้มาทานอาหารกันอย่างเดียว ต้องมานั่งเล่น นั่งคุย ถ่ายรูปเล่น อินเตอร์เน็ต ทำงานอะไรทำนองนั้นคือ มันจะไม่ใช่เป็นฟังก์ชั่นเดียว
ที่มา : rabbittoday.com
ที่มา : wongnai.com
สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ Concept ภาพรวมและแนวคิดของงาน Content หรือเรื่องราวที่ต้องสอดคล้อง กับแนวคิดในการออกแบบ คือการจะทำให้ดีไซน์สวย “สวยแล้วต้องมีเหตุผลด้วย” ว่ามาได้ยัง มันก็ จะตัวช่วยสนับสนุนให้งานดีไซน์ของเราแข็งแรงมากขึ้น Context ถ้าการออกแบบสามารถส่งเสริม บริบทรอบๆ ได้โดยที่ต้องไม่ไปสร้างอะไรใหม่เยอะ นั่ง จะยิ่ง ช่วยให้น่าดึงดูดใจยิ่ง ขึ้น
ที่มา : krystalgamer.me
เพิ่มความสดใสด้วยลวดลายเซรามิกของ Thaniya
9. ผลงานออกแบบ THE BASE Height Mittraphap – Khonkaen
ที่มา : wisont.wordpress.com
โดย พลัช ไพนุพงศ์ อินทีเรียร์ดีไซน์เนอร์ เจ้าของ บริษัทออกแบบตกแต่งภายใน THAT’S ITH INTERIOR การออกแบบที่เน้น space ที่โล่งๆ สบายๆ อยู่ได้ทั้งวัน หลีกเลี่ยงการแบ่งซอยพื้นที่เป็น ล็อคๆ และควรมีแค่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆ ไม่ควรใช้เฟอร์นิเจอร์เยอะชิ้น เพราะจะทำให้ห้องดูแน่น อึดอัด
ที่มา : yusabuy.com
ที่มา : ddproperty.com
เน้นเรื่องความเป็น tailor & flexible คือ ต้องมีความยืดหยุ่น และทำให้ modern & simple เพราะจะ ทำให้ดูแลรักษาง่ายสบายตาและใช้ได้ยาวนาน
ที่มา : checkraka.com
10. ผลงานออกแบบ L’atelier Poshtel Phuket
ที่มา : rmofficial.site
โดย คุณเก่ง – พีรเดช นรเศรษฐกร ผู้ก่อตั้ง Klickken Studio บริษัทออกแบบตกแต่งภายในที่มีความ เชี่ยวชาญในงานออกแบบโฮสเทลโดยเฉพาะ มีการนำศิลปะโกธิคซึ่งเป็นศิลปะแบบยุโรปยุคกลาง เข้าไปผสม เป็นงานปูน ไม้และโลหะดิบๆ ส่วนใหญ่จะเน้นที่ “การสร้างความรู้สึกที่เห็นครั้งแรก” และ “ความรู้สึกที่เกิดจากการใช้งานพื้นที่” คือ มันต้องสร้าง Impact ทำให้คนสงสัยว่า “นี่คือ อะไร?” มันจะชวนได้ให้คนอยากเข้าไปดู
ที่มา : latelierposhtel.com
ที่มา : traveloka.com
ทำให้ผู้ที่ได้เข้ามาพักได้ดื่มด่ำกับศาสตร์แห่งศิลป์ ของอารยธรรมตะวันตกเข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อ สร้างรูปแบบเฉพาะ อีกจุดที่โดดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว คือ เป็นที่พักแบบโฮสเทลที่มีบรรยากาศ ของความหรูหรา ลึกลับ น่าค้นหา ผ่านการหลอมรวมสไตล์ของงานศิลปะ
ที่มา : traveloka.com
หนึ่งในการร่วมงานกันของแบรนด์ Thaniya กับ Alberto Grassi ดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียงชาวอิตาลี ของแบรนด์ Calvin Klein ก็เป็นผลงานที่แสดงออกได้ถึงความยิ่งใหญ่และสวยงามในแบบของ Gothic art ซึ่งได้ผสมผสานกับความ Modern ของ Thaniya อย่างลงตัว
11. ผลงานออกแบบ Wyndham Atlas Wongamat Pattaya
ที่มา : kaidee.com
โดย คุณเกล – กานต์ธิดา ทิพกานต์กุล Interior Designer จาก makeAscene เป็นการออกแบบที่เน้น สร้างความน่าสนใจให้ Space ดูแปลกใหม่ โดยการพยายาหยิบจับอะไรที่มีความ Contrast มาอยู่ ด้วยกันเพื่อสร้างความเซอร์ไพรส์ และสร้างความโดดเด่นเป็นจุดๆ ให้กับผู้ที่อยู่อาศัย
ที่มา : muellerpattayahome.com
ที่มา : checkraka.com
งานตกแต่งภายในเป็นเรื่อง Emotion “ไฟ” เป็นสิ่งที่จะช่วยทำให้ความรู้สึกของบ้านเปลี่ยนไปได้ แค่แสงไฟสีขาวกับสีส้มก็ทำให้ดูแตกต่าง แต่งให้มีแสงที่เป็นธรรมชาติ เพื่อช่วยให้เกิดความผ่อน คลายรู้สึกอบอุ่น
ที่มา : unlockmen.com
12. ผลงานออกแบบ LUK HOSTEL
ที่มา : worldpackers.com
โดยทีมสถาปนิกจาก TIDTANG STUDIO “สีแดง” นอกจากจะเป็นสีที่สะดุดตาและจดจำได้ง่าย แล้ว ยังถือเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและความโชคดีของชาวจีน สถาปนิกจึงเลือกมาเป็นตัวแทน ในการเล่าเรื่องเพื่อดึงเอาบริบทไชน่าทาวน์อันเป็นที่ตั้งของโฮสเทล
ที่มา : visitmode.com
ที่มา : agoda.com
ออกแบบควบคู่กับองค์ประกอบสถาปัตยกรรมจีนที่ลดทอนให้โมเดิร์นขึ้น และเชื่อมบรรยากาศผ่าน กระจกใสระหว่างบาร์นั่ง เล่นสำหรับแขกในโฮสเทลและพื้นที่ภายในเรือนกระจกที่เปิดให้บริการ ทั้งคนในและนอกโฮสเทลให้สามารถมองเห็นกันได้ทั้งหมด คอร์ทกลางเปิดโล่งจากฝ้าชั้น 1 จนถึง พื้นกระจกชั้นดาดฟ้า ช่วยนำแสงธรรมชาติเข้าสู่อาคาร เพิ่มมิติให้คอร์ทด้วยการห้อยโคมไฟตกแต่ง ในระดับที่ลดหลั่นกันไปมาช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับผนังปูนเปลือยภายในโฮสเทล
ที่มา : today.line.me
เพิ่มความอบอุ่นจากแสงธรรมชาติในยามเย็นด้วยผลิตภัณฑ์เซรามิกลวดลายสีสันสดใส เพิ่มพลังจากแบรนด์ Thaniya
13. ผลงานออกแบบ Hotel Labaris Khaoyai
ที่มา : ninebooking.com
โดย คุณ ฉัตรพงษ์ ชื่นฤดีมล ผู้ก่อตั้ง CHAT Architects การออกแบบที่โดดเด่นด้านหน้าตาที่มอง ผ่านอาจคล้ายปราสาทกอธิก ส่วนหนึ่งเพราะธีมโดยรวมของที่พักนั้นเป็นเรื่องราวของดินแดน สมมติในนาม “อาณาจักรลาบาริส”
ที่มา : agoda.com
ที่มา : kaidee.com
สร้างโลกในจินตนาการที่ประกอบด้วยบรรดาสัตว์วิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กระต่ายมีเขา สิงโต ผสมหมูป่า กวางมีปีก โดยทั้งหมดถูกปกครองโดยคิงมิโนทอร์ (King Minotaur) เป็นเจ้าผู้ครองเมือง วิเศษที่ผู้เข้าพักจะถูกต้อนรับในฐานะแขกผู้มาเยือน สถาปัตยกรรมโดยรวมของ Hotel Labaris Khaoyai จึงถูกปั้นแต่งให้ดูพิศวง สลับซับซ้อน ราวกับโลกในเทพนิยาย ที่จะสร้างความตื่นเต้น ให้กับผู้ที่มาพักและเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติต่างๆ
ที่มา : pinterest.com
Collection ใหม่ ที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของสัตว์ เช่น กระต่ายน้อยในป่าใหญ่กับผองเพื่อน , ลูกแมวน้อย หรือลูกยีราฟจอมซน ผ่านงานศิลปะบนโถเซรามิกอย่าง Cookie Jar ซึ่งสามารถเอามาใส่ดอกไม้ หรืออาหารก็ได้ เป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่น่าสนใจในการเติมเต็มเรื่องราวต่างๆได้มากยิ่งขึ้น
14. ผลงานออกแบบ Little Shelter Hotel
ที่มา : home.163.com
โดย สถาปนิกจากบริษัท Department of Architecture ที่ดึงเสน่ห์และความงามเฉพาะของพื้นที่มา ผสมผสานกับประวัติความเป็นมาของจังหวัดเชียงใหม่ ไปจนจึงการทอนองค์ประกอบ สถาปัตยกรรมแบบพื้นถิ่น
ที่มา : baanlaesuan.com
ที่มา : baanlaesuan.com
Little Shelter Hotel ถูกออกแบบและก่อสร้างเพื่อให้เป็นมากที่พักสำหรับการพักผ่อน แต่ตั้งใจให้ สถานที่แห่งนี้เป็นตัวแทนของการบอกเล่าการเปลี่ยนผ่านของอดีตมายังปัจจุบัน และไปสู่อนาคต ของเชียงใหม่ให้กับผู้เยี่ยมชม
ที่มา : baanlaesuan.com
15. ผลงานออกแบบ Bunjob House
ที่มา : noticiasdebariloche.com.ar
โดย คุณณัฏฐวุฒิ พิริยประกอบ สถาปนิกผู้ก่อตั้งบริษัท NPDA Studio เป็นการออกแบบเพื่อตอบ โจทย์การพักผ่อนของนักเดินทางรุ่นใหม่ ซึ่งมีพฤติกรรมแตกต่างจากแขกผู้เข้าพักระยะยาวที่มัก เลือกห้องพักส่วนตัวแบบวิลล่า บ้านบรรจบจึงเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน
ที่มา : hotpomelo.com
ที่มา : hotpomelo.com
รูปทรงโค้งเว้า และโครงสร้างโปร่งเบาของอาคารคอนกรีตหล่อในที่นี้ กลับบอกเล่าเรื่องราว เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร นอกจากนี้การใช้วัสดุไม้ไผ่ หรือการสร้างร่องรอยของทางมะพร้าวที่ทาบ ทับลงบนเนื้อปูน ก็ยิ่ง ช่วยเชื่อมโยงกับกระบวนการก่อสร้างท้องถิ่น และตำแหน่งที่ตั้งได้อย่าง น่าสนใจ
ที่มา : iameverything.co
16. ผลงานออกแบบ The Mist Hot Spring Hotel
ที่มา : art4d.com
โดย คุณอมตะ หลูไพบูลย์ จาก Department Of Architecture บริษัทออกแบบแถวหน้าจากประเทศ ไทย จุดเด่นของโครงการนี้คือการเลือกใช้เสน่ห์ของ “ไอนํ้ำ” ที่เกิดจากน้ำพุร้อนเป็นจุดตั้งต้นของ ไอเดีย ก่อนนำไปสู่การออกแบบองค์ประกอบอื่นๆ ท่ามกลางทะเลสาบ และกลุ่มอาคารที่ปิดล้อม โดยใช้ไอน้ำที่ลอยขึ้นนั้นทำหน้าที่เป็นฉากธรรมชาติช่วยพรางสายตาเพื่อความเป็นส่วนตัว
ที่มา : baanlaesuan.com
ที่มา : hospitalitydesign.com
สร้างการรับรู้ให้ผู้ที่มาพักอาศัยด้วยการพ่นสีเทาเข้มและเทาอ่อนเท่านั้นลงบนผนังหินแกรนิต เพื่อให้กลายเป็นฉากหลังสำคัญสำหรับเปลือกอาคาร 2 เลเยอร์ (Double Skin) ที่ทำจากกระจกสีมา เจนต้า และสีฟ้าหลากเฉด ช่วยกระตุ้นประสบการณ์ทางประสาทสัมผัส (Sensorial Experience) ที่ คนเรามีต่อสีสันต่าง ๆ ทั้งจากมุมมองภายนอกและภายในห้องพัก การออกแบบโถงทางเดินให้มี ความกว้างกว่าปกติ จนเกิดเป็นสเปซแนวตั้ง (Vertical Space)
ที่มา : www10.aeccafe.com
17. ผลงานออกแบบ X2 Chiangmai Riverside Resort
ที่มา : asiadmc.com
โดย คุณปนิพัฒน์ หิมะมาน สถาปนิกหนึ่งในทีมผู้ออกแบบจาก I’ll Design Studio เป็นการ ออกแบบที่สร้างประสบการณ์ผ่านมุมมองต่างๆ ยังปรากฏให้เห็นภายในตัวสถาปัตยกรรมเอง กล่าว ได้ว่าภาพลักษณ์โดยรวมของ X2 Chiangmai Riverside Resort นั้นจะเน้นผนังอิฐที่ปิดทึบสลับกับ ช่องเปิด และทางเข้าในส่วนต่างๆ
ที่มา : vossy.com
ที่มา : destinasian.com
ซึ่งเป็นการใช้องค์ประกอบเรื่องช่องเปิดและปิด ช่วยนำพา “แสง” ให้ลอดเข้ามาในอาคารบางส่วน เพื่อช่วยเติมเต็มมิติ และสร้างลูกเล่นทำให้ผู้ที่พักอาศัยได้หลงใหลไปกับบรรยากาศดูมีความพิเศษ แปลกตาขึ้น
ที่มา : chiangmaicitylife.com
18. ผลงานออกแบบ Hotel Bocage Hua Hin
ที่มา : baanlaesuan.com
โดย คุณดวงฤทธิ์ บุนนาค ผู้ก่อตั้ง บริษัท ดวงฤทธิ์ บุนนาค จำกัด (DBALP) เป็นการออกแบบ โรงแรมให้เป็นส่วนหนึ่งกับสเปซของคอมมูนิตีมอลล์ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ซึ่งมีความ แตกต่างจากการพักผ่อนทั่วไปให้แขกผู้เข้าพัก ความงามตามธรรมชาติของปูนเปลือยผสมผสาน ประสบการณ์การออกแบบโรงแรมแห่งนี้จึงออกมาเรียบนิ่ง
ที่มา : hayinstyle.com
ที่มา : hotelbocage.com
บรรยากาศภายในห้องพักคุมโทนด้วยสีเทาขรึมๆของปูน เพราะผู้ออกแบบต้องการให้บรรยากาศ โดยรวมนิ่งสงบ ไม่ฉูดฉาด เหมาะกับการพักผ่อน เพื่อมอบประสบการณ์การพักผ่อนให้แขกผู้เข้า พักอย่างเต็มอิ่ม ภายใต้พื้นฐานของความนิ่งเรียบและพอเหมาะพอควร
ที่มา : boundary.co.th
ข้อมูลอ้างอิง :
www.sbdesignsquare.com
www.baanlaesuan.com