8 สไตล์การแต่งห้องต้อนรับฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึง
สไตล์การตกแต่งบ้านหรือห้องมีมากมายหลากหลายในปัจจุบัน การตกแต่งห้องหรือการตกแต่งบ้านเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ในตัวคุณ หลายท่านชอบในความแตกต่าง ความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร และเราจะพาคุณไปเพลิดเพลินกับสไตล์การแต่งห้องที่เราคัดสรรค์มาเพื่อคุณ ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้ชาย หรือคุณผู้หญิง และอาจเป็นส่วนหนึ่งในแนวคิดสำหรับการตกแต่งบ้านหรือตกแต่งห้องที่มีความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร และแฝงไปด้วยความงดงามและความล้ำค่า ใน 8 สไตล์ของการตกแต่งที่จะมาต้อนรับฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึง
1.การตกแต่งห้องแบบ Minimallist Style
มินิมอลคือความเรียบง่ายที่สามารถตอบสนองความรู้สึกได้อย่างชัดเจนและเต็มเปี่ยมหรือที่เรียกว่าน้อยแต่มากนั่นเอง เช่นเดียวกับ การแต่งห้องจะเน้นความดูดีแบบเรียบง่ายบวกกับความสบายของเฟอร์นิเจอร์ โทนสี และความโดดเด่นของวัตถุ ที่ทำให้บ้านดูโล่งสะอาดตาและได้ความสมดุลบนดีไซน์ที่พอดี จึงทำให้กลายเป็นแนวการตกแต่งห้องอีกหนึ่งสไตล์ที่ได้รับความนิยมอยู่มาก จึงเหมาะกับผู้ชื่นชอบความเป็นอิสระ แต่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังให้ความสะดวกสบายในแบบที่ไม่เกะกะสายตา จึงสังเกตได้ว่าการตกแต่งห้องแบบ Minimallist นั้นจะมาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์รูปลักษณ์ทันสมัยผสมกับกลิ่นอายของแฟชั่นนิสต้าได้อย่างลงตัว เข้าได้กับทุกเทรนด์ ทุกยุคสมัย หากคุณเป็นมือใหม่ที่ไม่คุ้นเคยกับการจัดห้องในสไตล์นี้ แนะนำให้เลือกมา 1 ห้องเพื่อทดลองใช้เป็นโมเดลสำหรับตกแต่งก่อนห้องอื่นๆ จากนั้นก็เข้าไปเคลียข้าวของที่รกรุงรังและไม่จำเป็นออกให้หมด เพื่อเตรียมการวางรูปแบบห้องสไตล์มินิมอล นอกจากจะต้องเคลียร์พื้นห้องให้สะอาดเอี่ยมแล้ว เราจะต้องเคลียร์ผนังห้องให้ปราศจากตะขอแขวน ราวแขวน หรือแม้กระทั่งของตกแต่งที่ไม่จำเป็นให้ทิ้งไป ให้เหลือไว้แค่ที่แขวนงานศิลปะบ้างนิดหน่อยและจะช่วยให้บรรยากาศห้องดูสงบสุขและเพลิดเพลิน ทั้งยังดูกว้างขึ้นด้วยการแต่งห้องโทนขาวสว่าง สามารถกระจายแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี หรือถ้าต้องการเพิ่มสีสันความสดชื่นก็สามารถปลูกต้นไม้เล็กๆ สักต้น 2 ต้น หรือจะใส่เฟอร์นิเจอร์กับของตกแต่งคอนโดโทนสีพาสเทลเข้าไป ก็ทำให้ห้องของคุณน่าสนใจขึ้นได้ในพริบตา
2.การตกแต่งห้องแบบ Colorful Style
บ้านที่ตกแต่งด้วยสีสดๆ หลากหลายสีจะช่วยให้บ้านดูมีสีสัน มีชีวิตชีวา แต่ถ้าคนเลือกใช้่โทนสีไม่เป็น หรือวางจังหวะของสีไม่ถูก ก็จะทำให้บ้านออกมาลายตาไม่น่าอยู่ สีสันสุดจี๊ดกับการแต่งห้องสุดเจ๋ง ภายในห้องนั่งเล่น ที่เข้ามาภายในห้องต้องสะดุดตาไปกับหลากหลายสีสันกันอย่างแน่นอน โดยสีที่เลือกใช้ภายในห้องนั้น จะเน้นเป็นโทนสีแดง และ สีเหลือง ที่ตัดกับได้แบบจี๊ดจ๊าด สุดๆ ถ้าจะสดุดตาไปกับสีสันที่อบอุ่นให้ทั้งความอบอุ่นและความสดใส ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ซึ่งการตกแต่งนั้น จะให้ความเป็น Country นิดๆ จากวอลเปเปอร์ลายไม้ที่เลือกใช้ แต่ยังคงความสดใส ไปกับสีสันของเฟอร์นิเจอร์ ที่ช่วยเพิ่มความสะดุดตาได้เป็นอย่างดี ห้องนอนกับหลากหลายสีสัน ที่มีการนำมาจัดวางผสมผสานกัน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ เฟอร์นิเจอร์ และ ของตกแต่ง ซึ่งเป็นการเลือกใช้โทนสีแบบ Colorful ที่เน้นในเรื่องของการเล่นสีสันเป็นหลัก หรือจะจัดระเบียบของในห้องนอนด้วย ชั้นวางของติดผนัง สีสันสดใส ขนาดกระทัดรัด ที่ดีไซน์จัดวางรูปแบบได้ด้วยตัวคุณเองและเพิ่มลูกเล่นให้ห้องนอนของคุณมีสีสันด้วย เก้าอี้ ที่มีสีสันที่สะดุดตานั่งสบายสไตล์โมเดิร์น จับคู่กับกระถางต้นไม้สีสดสด ช่วยเพิ่มความสบายตาให้กับมุมนั่งเล่นมุมโปรดของคุณได้ รับรองไม่ซ้ำใครแน่นอน
3.การตกแต่งห้องแบบ British Colonial Style
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นสไตล์เมืองผู้ดี การตกแต่งห้องนอนสไตล์บริทิช โคโรเนียลเลยออกมาดูเรียบแต่หรู เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ที่ใช้จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ชิ้นหนา สไตล์วิคตอเรียน เตียงนอนอาจจะเป็นเตียงนอนสี่เสา ส่วนสีที่ใช้ตกแต่งจะเป็นสีโทนสว่างๆ เน้นความโปร่งด้วยม่านพริ้วและหน้าต่างที่กว้างขวาง สีสันของห้องนิยมใช้สีโทนอ่อนหรือสีพาสเทล เช่น สีขาว สีครีม สีชมพูอ่อน สีเหลืองอ่อน เป็นต้น ผนังของห้องส่วนใหญ่ถูกออกแบบเพื่อช่วยลดความร้อน ประตูและหน้าต่างของห้องนิยมใช้ทั้งทรงสี่เหลี่ยมและทรงรูปโค้งเกือกม้า เพิ่มรายละเอียดด้วยเส้นประดับลูกฟักเพื่อแบ่งจังหวะให้น่าสนใจ มีการประดับปูนปั้นหรือไม้ลายฉลุรอบกรอบหน้าต่าง ตกแต่งภายในด้วยเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่เน้นรูปทรงคลาสสิค วินเทจ โบราณ เช่น โต๊ะ ตู้ โคมไฟ หรือนาฬิกาโบราณแบบไขลาน ที่ให้ความรู้สึกตะวันตกคลาสสิคประยุกต์ไทยได้เป็นอย่างดี นิยมใช้เฟอร์นิเจอร์รูปแบบโบราณ วัสดุพื้นนิยมใช้คือ ไม้ หินอ่อน กระเบื้องลายโบราณ บางครั้งใช้กระเบื้องสีเรียบ 2 สี อย่างสีขาว และสีดำ ปูสลับกันเป็นตารางหมากรุก
4.การตกแต่งห้องแบบ Vintage Style
สไตล์การแต่งห้องแบบวินเทจ คือ การสรรค์สร้างกลิ่นอายแห่งเสน่ห์และประวัติศาสตร์ ผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เก่าแก่ อาจจะเป็นของโบราณ ของเก็บสะสม ของจากตลาดนัด หรือของที่ตกทอดเป็นมรดกก็สามารถก่อให้เกิดบรรยากาศความเป็นวินเทจได้ การเลือกโทนสีในการแต่งห้องนอนให้ดูเป็นวินเทจนั้น สามารถ ทำได้ง่าย ๆ โดยใช้สีโทนอ่อนอย่างสีพาสเทล สีเอิร์ธโทน หรือสีเบจ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงความสวยเรียบหรูตามคอนเซ็ปต์ด้วย โดยใช้สีที่ให้ความรู้สึกถึงความหรูหรา มีพลังอย่างสีม่วงอ่อน หรือไม่ก็ใช้สีที่ดูเรียบหรูอย่างฟ้าอ่อน สีครีม หรือสีสุดคลาสสิกอย่างสีขาว เป็นต้น การเลือกใช้โทนสีอ่อนนอกจากจะทำให้การแต่งห้องนอนสไตล์วินเทจดูสวยเรียบหรูแล้ว ยังช่วยให้บรรยากาศภายในห้องนอนดูอบอุ่น ผ่อนคลาย และสบายตาอีกด้วยสร้างมุมอบอุ่นส่วนตัวที่ดูเรียบง่าย เป็นส่วนหนึ่งของห้องนั่งเล่น เหมาะสำหรับนั่งอ่านหนังสือ โดยเลือกเก้าอี้สไตล์วินเทจ มาจัดวางกับโต๊ะข้างสักตัว ก็ทำให้ห้องรู้สึกน่าสบายมากยิ่งขึ้น หรือมุมสงบอีกมุมหนึ่งคือโซฟาสีขาวโครงไม้ เป็นชุดเฟอร์นิเจอร์วินเทจทั้งหมด เข้ากันได้ดีกับพื้นไม้ และผนังห้องโทนสีขาว การตกแต่งภายใน สไตล์วินเทจ ส่วนใหญ่ใช้เฟอร์นิเจอร์ในโทนสีน้ำตาล ช่วยสร้างสีสันและบรรยากาศของการพักผ่อนได้อย่างดีเยี่ยม พื้นผนัง รวมถึงเสาบ้านในโทนสีขาว ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ในโทนสีน้ำตาลได้อย่างสวยงามลงตัวในทุกพื้นที่ของห้อง ของตกแต่งห้องนอนที่ใช้ติดกับผนังได้ หรือเป็นของตกแต่งแบบชิ้นเล็กๆ แทนของตั้งพื้น จะได้ด้วยประหยัดพื้นที่ในการจัดวาง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ก็แนะนำให้เลือกซื้อแบบโชว์ขา จะทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้อีกทางหนึ่ง หรือจะเลือกตกแต่งด้วย โคมไฟแต่งห้องนอน ที่ดูแปลกตา โดยการนำสิ่งของเครื่องใช้ที่มีอยู่มาประยุกต์ทำใหม่ ให้กลายเป็นโคมไฟสุดเท่ หรือใครอยากจะหาซื้อแทนการทำเอง ตามตลาดนัด ร้านขายของเก่า หรือตลาดของมือสอง ก็มีของตกแต่งห้องนอนแบบวินเทจให้เลือกซื้อมากมาย รับรองว่า วินเทจจะเป็นอีกหนึ่งสไตล์การแต่งห้องที่เข้า กับห้องนอนของคุณด้วยเหมือนกัน
5.การตกแต่งห้องแบบ Modern Style
สไตล์การแต่งห้องแบบที่เราคุ้นเคยกันดี นั่นก็คือ สไตล์การแต่งห้องแบบโมเดิร์น เป็นสไตล์ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะยุคโมเดิร์น โดยเน้นไปที่ความเรียบง่าย ไม่เรื่องมาก เลือกของตกแต่งที่มีหลากหลายฟังก์ชันภายในตัว โทนขาว-เทา-ดำ ที่สื่อถึงความโมเดิร์น พร้อมดึงความหรูหราเข้ามาผสมผสานด้วยการกรุลวดลายหินอ่อนบริเวณหัวเตียว โดยภายในห้องถึงแม้จะใช้โทนสีเทา ดำ ก็ไม่ทำให้ภายในห้องดูทึบ เพราะได้มีการไล่ระดับเฉดสีเข้ม -อ่อน และ มีโทนสีขาวเข้ามาช่วยเพิ่มความสว่าง อีกส่วนของห้องนอนก็คือเรื่องของเส้นสาย ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องของความสบายตา เป็นเส้นนำสายตาในการพักผ่อน โดยพยายามเน้นไปที่เส้นที่มองเห็นในลักษณะแนวนอน ณ ขณะที่เรากำลังนอนอยู่ อาจจะเป็นโครงเตียงสีเมทัลลิคหรือสีทอง หรือจะเป็นการแต่งผนังห้องด้วยลายเส้นเป็นวอลเปเปอร์ก็ได้ ให้ดูโมเดิร์นควรที่จะเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งห้องนอนที่มีรูปทรงแบบเรขาคณิต เช่น สี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีมุมที่โค้งมน รูปทรงวงกลมและวงรีก็เป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน ความโมเดิร์น ความปลอดโปร่ง สบายตา ในโทนสีขาว โดยได้มีการเพิ่มความโดดเด่น สะดุดตาด้วยของตกแต่งต่างๆ ที่ช่วยทำให้ภายในห้องดูมีมิติยิ่งขึ้น พร้อมกับเพิ่มความโมเดิร์นด้วยผ้าม่านโทนสีเทา ที่เน้นการเล่นโทนสีในรูปแบบ โมโนโทน (Monotone) ที่เลือกตกแต่งด้วยโทนสีเทาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่าน, บิวท์อิน หรือเฟอร์นิเจอร์ แต่ทุกสิ่งอย่างจะมีความโดดเด่น ด้วยการใช้น้ำหนักอ่อน-เข้มแตกต่างกันไป ทำให้ภายในห้องดูมีมิติ ไม่น่าเบื่อ อีกทั้งยังทำให้บรรยากาศภายในห้องไม่มืดจนเกินไป และไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด สไตล์การแต่งห้องแบบโมเดิร์น มักจะเลือกใช้วัสดุที่เป็นไม้ ที่มีความมันวาวในการตกแต่ง โดยจะทำการทาสีไม้ เพื่อให้ทึบแสงและปกปิดลายไม้เอาไว้ และมีการใช้พลาสติก เหล็ก หรือสเตนเลสเพิ่มเติม เพื่อช่วยทำให้ห้องดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการใช้กระจกสำหรับตกแต่งห้องร่วมด้วย เป็นการสร้างมิติทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้อีกด้วย
6.การตกแต่งห้องแบบ Thai Style
การแต่งห้องในสไตล์แบบไทยปัจจุบัน จริงๆแล้วเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก จึงถูกนำมาจัดตกแต่งห้องในโรงแรมหรูตามเมืองท่องเที่ยวทั่วไทย ตลอดจนนำไปตกแต่งในต่างประเทศ ด้วยตัวเอกลักษณ์ไทยที่ชัดเจน ทำให้หลายท่านหลงรักเสน่ห์ของบ้านแบบไทยอยู่ไม่น้อย สำหรับคนที่ชอบการตกแต่งแบบไทยๆ ส่วนใหญ่จะเข้าใจว่า ต้องเป็นเรือนไทย หรือบ้านไทยเท่านั้น จึงจะแต่งแบบไทยได้ ซึ่งก็ถูก แต่ไม่ใช่ว่า ถ้าไม่เป็นเรือนไทยแล้วจะแต่งแบบไทยไม่ได้ เพียงแต่ว่าบรรยากาศหรือความรู้สึกมันอาจจะไม่ได้เต็มร้อยเท่านั้นเองมันก็ไม่จำเป็นสมัยนี้บ้านไทยแท้ๆ แบบเรือนไทยนั้นไม่ใช่จะสร้างกันได้ง่ายๆ มีกันได้ทุกคน แต่คนชอบและนิยม ก็ยังมีมากอยู่ สังเกตุดูจากเรื่องเกี่ยวกับเรือนไทย ที่ลงไปทุกตอนจะมีคน comment เข้ามาเสมอว่าอยากอยู่เรือนไทยไอเดียแต่งห้องนอนสไตล์ไทยใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งพื้นบ้าน เช่น หมอน หรือ ผ้าปูที่นอน ตู้เตียง แล้วแต่บ่งบอกความเป็นไทยที่เป็นเอกลักษณ์ ปัจจุบันเพื่อให้ออกมาดูทันสมัยขึ้นได้ เช่น ไทย-โมเดิร์น หรือไทยประยุคผสมกับการจัดวางที่ลงตัว ห้องนอนแบบไทย ๆ ที่มีจุดเด่นในการตกแต่งด้วยการใช้ไม้เป็นองค์ประกอบหลักอีกด้วย เมื่อถึงยุคที่มีการเปิดรับเอาวัฒนธรรมตะวันตก จึงมีเก้าอี้รับประทานอาหาร ซึ่งเกิดการผสมผสานเข้ากันด้วยลวดลายอันวิจิตร และมีฝีมืออันประณีต ก็เกิดเก้าอี้แบบประยุกต์ รูปแบบเข้ารูปพระธรรม นำมาผสมกับบานเปิดแบบบ้านไทย จึงเกิดตู้แบบไทยประยุกต์ขึ้นได้ ซึ่งรูปแบบไทยประยุกต์นี้เกิดขึ้นจากกระบวนการคิดที่แฝงไว้ถึงความเป็น ไทยอย่างลงตัว มากกว่าการเอาชิ้นส่วนของความเป็นไทยไปปะหรือติดไว้ การตกแต่งพื้นที่ภายในห้อง สามารถเลือกใช้ไม้สังเคราะห์ทดแทนไม้จริงได้ หรืออาจผสมผสานเฟอร์นิเจอร์ประเภทหวายสาน หรืองานฝีมือในท้องถิ่น เช่น งานหัตถกรรมโลหะ ผ้าทอลายพื้นถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อสร้างความน่าสนใจให้บ้านไทยยุคใหม่มีความร่วมสมัยมากกว่าเดิม กลิ่นอายเดิม แต่ไม่จำเป็นต้องยึดติดอยู่กับรูปแบบเดิมๆ เพราะคุณสามารถเปลี่ยนมาเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ใหม่ที่มีความร่วมสมัย แต่ยังคงเอกลักษณ์แบบไทยๆ ไว้ ก็จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้พื้นที่ในบ้านคุณมีความแปลกใหม่ แต่ยังคงความสวยแบบไทยไว้ได้อย่างครบครัน
7.การตกแต่งห้องแบบ Loft Style
สไตล์ลอฟท์ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการตกแต่งที่กำลังมาแรงมากในตอนนี้ ไม่ว่าจะไปที่ไหนเราก็สามารถมองเห็นรูปแบบของผนังปูนเปลือยหรือผนังอิฐโชว์แนวได้อยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะในร้านกาแฟและรีสอร์ท นอกจากนี้คนส่วนใหญ่ยังนิยมนำการตกแต่งสไตล์ลอฟท์ไปใช้ในการแต่งบ้านอีกด้วย ผนังอิฐในห้องนอนให้บรรยากาศที่อบอุ่น หน้าต่างบานใหญ่นำแสงจากธรรมชาติอาบเข้ามา กล่อมให้โทนสีเข้มภายในสว่างขึ้น ผนังอิฐเปลือยทาสีขาวเข้ากับโทนสีโดยรวมและชิ้นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในห้อง ให้ลุคมินิมอลสุดชิค ละแน่นอนว่านอกจากสไตล์จะบ่งบอกความเป็นคุณแล้ว เรื่องของฟังก์ชั่นก็ยังสำคัญไม่แพ้กัน การเลือกเฟอร์นิเจอร์เพื่อตกแต่งห้องจึงควรคำนึงถึงฟังก์ชั่นที่เพิ่มขึ้นมา เช่น หัวเตียงที่มีดีไซน์ช่องเก็บของ เพื่อหนังสือเล่มโปรด เพิ่มส่วนด้านบนของตู้เสื้อผ้า สร้างพื้นที่จัดเก็บที่มากกว่าสำหรับหมวกใบเก่งหรือของชิ้นสำคัญที่เก็บไว้ใช้ในโอกาสพิเศษ Loft Style ก็ให้บรรยากาศของความอบอุ่นได้ ด้วยการเพิ่มลวดลายไม้เข้าไป จึงไม่ทำให้ภายในห้องดูดิบจนเกินไป อีกทั้งยังให้ในเรื่องของความผ่อนคลาย ซึ่งถือเป็นการผสมผสานระหว่างความดิบและความอบอุ่นได้อย่างลงตัว อีกหนึ่งการตกแต่งห้องนั่งเล่น Loft Style ซึ่งได้มีการผสมผสานกับความคลาสสิค ด้วยเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ ลูกเล่น และ ความโดดเด่นให้ภายในห้อง ทั้งนี้ยังคงความเป็น Loft เอาไว้ได้เป็นอย่างดีด้วยโครงสร้างปูนเปลือยและการโชว์ท่อสายไฟและถ้าจะตกแต่งด้วยผนังอิฐสีส้มก็ถือเป็นอิฐอีกหนึ่ง โทนสีที่ค่อนข้างได้รับความนิยม สำหรับอิฐโทนสีส้มซึ่งให้ทั้งความเท่ ดิบ และ คลาสสิค สำหรับการตกแต่งภายในห้องนี้ เรียกว่าได้ความ Loft มาแบบจัดเต็มเลยทีเดียว ด้วยโครงสร้างปูนเปลือยพร้อมกับเพิ่มบรรยากาศ และ ความเก๋ ให้ภายในห้องด้วย แสงไฟ เฟอร์นิเจอร์ และ การนำของตกแต่งที่เป็นของใหม่ทำเก่าเข้ามาตกแต่ง
8.การตกแต่งห้องแบบ Blue & White Style
ของตกแต่งโทน Blue and White เป็นสไตล์ที่คลาสสิคมาก ไม่ว่าจะซื้อมากี่ปีแล้ว ก็ยังดูสวยอยู่เสมอ การออกแบบห้องจึงควบคู่ไปกับการกําหนดค่าสีหลัก คือ สีน้ําเงินและสีขาว ที่จะช่วยให้เครื่องประดับตกแต่งที่เป็นสีน้ำเงินหรือของสะสมของเจ้าของบ้านดูโดดเด่นขึ้น การแต่งบ้านสไตล์ Blue & White นี้ ก็เป็นการนำของตกแต่งห้องจำพวกเซรามิกที่มีสองสีคือสีน้ำเงินและสีขาวมาเป็นสีหลักในการแต่งห้อง ไม่ว่าจะเล่นผนัง ม่าน เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งก็ให้พยายามอยู่ในสองสีนี้เท่านั้น การแต่งห้องแนวนี้จะให้ความรู้สึกเย็นสบาย ถ้ายังไม่อยากเปลี่ยนแปลงห้องมากนัก อาจจะลองเอาเครื่องเซรามิกที่มีลวดลายที่สวยงามมาใส่ไว้ในห้องสักชิ้นสองชิ้น จะประดับบนผนังและวางไว้บนชั้นลอย จะทำให้ผนังดูมีราคาขึ้นมาทันที หรือจะเป็นห้องครัว ก็เป็นอีกห้องหนึ่งที่แต่งด้วยสีน้ำเงินกับสีขาว อาจจะใช้ของประดับตกแต่งจำพวกเซรามิกต่างๆมาวางตามหิ้งตามชั้น รับรองว่าจะอยากอยู่ในครัวทั้งวันโดยไม่อยากออกไปไหน ถ้าจะให้ดู Blue & White มากขึ้น เราแนะนำว่าลองใช้สีผนังเป็นสีฟ้าและอย่าลืมใช้ผ้าม่านที่แต่งแต้มด้วยสีฟ้าเช่นกัน สิ่งที่ขาดไม่ได้คือของตกแต่งถ้วยโถโอชามที่จะเอานำมาวางโชว์จะต้องอยู่ในสองสีนี้เท่านั้นไม่ว่าจะเป็นสีฟ้าหรือสีขาว